สืบเนื่องจากการที่ภูเขาไฟลูกหนึ่ง บนเกาะลา ปัลมา ซึ่งเป็นเกาะย่อย 1 ใน 8 แห่ง ของหมู่เกาะคะแนรี ดินแดนปกครองตนเองนอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของสเปน เกิดการปะทุอย่างหนัก ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยนับเป็นการปะทุครั้งแรกในรอบ 50 ปี ของภูเขาไฟลูกนี้ หรือนับตั้งแต่ปี 2514 นั้น

ประชาชนจำนวนหนึ่งยังคงปักหลักที่สนามบินลา ปัลมา แม้ปิดชั่วคราวเนื่องจากภูเขาไฟระเบิด
สถาบันวิทยาภูเขาไฟแห่งหมู่เกาะคะแนรีรายงานว่า ภูเขาไฟมีการปะทุมากขึ้น และรุนแรงถึงขั้นที่กรวยของภูเขาไฟได้รับความเสียหาย แต่ไม่ใช่เรื่องผิดปกติมากนัก เนื่องจากเป็นผลจากโครงสร้างบริเวณปล่องของภูเขาไฟที่ไม่สามารถรับแรงสั่นสะเทือนรุนแรงในระดับนี้ได้

ขณะที่การอพยพประชาชนบนเกาะลา ปัลมา ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการนำประชาชนออกจากพื้นที่แล้วเกือบ 7,000 คน จากจำนวนประชากรบนเกาะประมาณ 83,000 คน อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนดังกล่าวอาจมีอุปสรรค เมื่อสนามบินบนเกาะลา ปัลมา จำเป็นต้องระงับให้บริการชั่วคราว ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากทัศนวิสัยย่ำแย่ มีกลุ่มควันและเถ้าถ่านจากภูเขาไฟปกคลุมน่านฟ้าแทบทั้งบริเวณ

นอกจากนี้ สถาบันวิทยาภูเขาไฟแห่งหมู่เกาะคะแนรี คาดการณ์การปะทุของภูเขาไฟ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมานั้น อาจครอบคลุมระยะเวลายาวนานถึง 84 วัน โดยประเมินจากสถิติการปะทุของภูเขาไฟลูกนี้ในอดีต และนับตั้งแต่เกิดเหตุ มีการยืนยันบ้านเรือนประมาณ 200 หลังได้รับความเสียหายจากลาวา อีกทั้งทุกฝ่ายมีความกังวลต่อ “การระเบิด” และ “กลุ่มเมฆหรือก๊าซพิษ” ตลอดจนผลกระทบต่อระบบนิเวศ เนื่องจากมวลลาวาจำนวนมหาศาล ซึ่งมีอุณหภูมิสูงกว่า 1,000 องศาเซลเซียส กำลังมุ่งหน้าสู่ทะเลด้วย